COS แบรนด์ดังจากกรุงลอนดอนส่งคอลเล็คชั่น The White Shirt Project เอาใจแฟนคลับ COS ทั้งชายและหญิง นำเสนอ 8 เสื้อเชิ้ตสีขาวดีไซน์คลาสสิกที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของ COS อย่างสมบูรณ์แบบผ่านการออกแบบที่เรียบหรูและคัตติ้งสุดประณีต พร้อมขึ้นแท่นเป็นอีกหนึ่งคอลเล็คชั่นจาก COS ที่ควรมีติดตู้เสื้อผ้า
สำหรับคอลเล็คชั่น The White Shirt Project นี้ ได้ทีมดีไซเนอร์และช่างตัดเย็บของ COS มาครีเอทไอเดียร่วมกัน โดยอิง Non-linear Creative Process หรือขั้นตอนการออกแบบชิ้นงานจากการประติดประต่อจินตนาการของผู้ออกแบบเข้าด้วยกันและถ่ายทอดความสัมพันธ์ผ่านชิ้นงาน ผสมผสานเทคนิคการตัดเย็บเหนือชั้นอย่าง 3D Draping หรือการจับจีบที่สลับซับซ้อน โดย COS เริ่มต้นจากการนำเสื้อเชิ้ตสีขาวมาเลาะรูปทรง และรังสรรค์ผลงานขึ้นมาใหม่จากผ้าชิ้นเดิม Non-linear Creative Process ถือเป็นการเปิดโอกาสทางความคิดให้เหล่าทีมดีไซเนอร์ มุ่งความสนใจไปที่การออกแบบดีเทลของเสื้อผ้าอาทิ ตัวเสื้อ ปกเสื้อ ข้อมือเสื้อ กระเป๋าเสื้อให้มากขึ้น
ไล่โทนสีได้ละมุนมากกก กระเป๋า Chanel Sunset on the Sea อีกหนึ่งไอเท็มสุดจี๊ดจากชาเนลที่เหล่าสาวกไม่ควรมองข้าม แต่ก่อนจะตามไปสอย ก็มาอัพเดทข้อมูลกันสักหน่อย
ต้องบอกว่ากระเป๋า Chanel Sunset on the Sea เป็นไอเท็มใหม่สำหรับคอลเล็คชั่น Cruise 2019 ของ Chanel ที่ได้รับความนิยมไม่น้อย เพราะนางมาพร้อมหนังอันโดดเด่นมีการไล่โทนสีสดใสแบบ Ombre ประดับด้วยด้ามจับโซ่เรซิ่นที่ไล่สีโทนเดียวกับกระเป๋าและโซ่โลหะสีทอง ซึ่งกระเป๋ารุ่นนี้ของชาเนลถือเป็นหนึ่งในคอลเล็คชั่นที่น่าตื่นเต้นที่สุด มีให้เลือกใช้งานได้ทั้งแบบสะพายข้างและคาดเอว
The Sunset On The Sea ถูกสร้างขึ้นมาจากหนังลูกวัว (grained calfskin) หนังถูกตัดเย็บเป็นลายตารางหรือ quilting แต่ละช่องจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมคางหมูอันเป็นสัญลักษณ์ของกระเป๋าชาเนล โซ่โลหะสีทองด้านบนและโซ่เรซิ่นก็เข้ากับสีสไตล์ Ombre ของกระเป๋าได้ดี ส่วนโลโก้ CC ตกแต่งอยู่ด้านหน้ากระเป๋าพร้อมตัวล็อคเปิด-ปิดที่เห็นได้เด่นชัด
นอกจากนี้ยังมีสายสะพายผ้าใบให้สามารถพกพากระเป๋าใบนี้ได้หลากหลายวิธี และด้านล่างนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ Chanel Sunset on the Sea ให้ทุกท่านที่สนใจกระเป๋ารุ่นนี้ได้เช็คข้อมูลก่อนที่จะเสียตังค์ซื้อ เพราะกระเป๋าราคาหลักแสนถ้าไม่ชัวร์ ก็ควรเช็คให้ดีๆ ก่อนนะจ๊ะ
เช็คข้อมูลก่อนหิ้ว กระเป๋า Chanel Sunset on the Sea หนังโทนสี Ombre ที่ต้องมีสักใบ!
ซื้อได้ที่ไหน
คุณสามารถซื้อกระเป๋า Chanel Sunset on the Sea ได้ที่บูติกของ Chanel แต่ควรโทรล่วงหน้าเพื่อเช็คว่าสินค้าพร้อมหรือไม่ และอีกทางเลือกคือซื้อจากร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมที่มีความน่าเชื่อถือบนโลกออนไลน์ ไม่ก็ร้านค้ากระเป๋าแบรนด์เนมที่มีหน้าร้านอยู่ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ
โทนสีที่มีให้เลือก
รุ่น ขนาด และราคา
Chanel Sunset On The Sea Flap Bag ขนาด : 6.2″ x 2.3″ x 10.1″ ราคา $4,900 บาท หรือประมาณ 153,350 บาท
Chanel Sunset On The Sea Small Flap Bag ขนาด : 5.1″ x 2.3″ x 8.6″ ราคา $4,500 หรือประมาณ 140,832 บาท
Chanel Sunset On The Sea Waist Bag ขนาด : ไม่มีระบุ ราคา $3,600 หรือประมาณ 112,665 บาท
จัดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเรียบร้อย สำหรับเวทีประกวดนางงามระดับโลก “The 69th Miss World 2019” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างเดือน พฤศจิกายน –ธันวาคม 2562 ที่ครั้งนี้ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพครั้งแรก ภายใต้กรอบแนวคิด“Beauty with a Purpose”
และงานนี้ “วาเนซา ปอนเซ” Miss World 2018 จากประเทศเม็กซิโก, “นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์” รองอันดับ 1 Miss World 2018 และ Miss Asia ขวัญใจแฟนนางงามประเทศไทย นำทีมสาวงาม“มาเรีย เวสิเลวิช” Miss World Europe จากประเทศเบลารุส “กาดิยาห์ โรบินสัน” ,Miss World Caribbean จากประเทศจาเมกา “เจสสิกา ไทสัน” Miss World Oceania จากประเทศนิวซีแลนด์ ,“ควิน อเบนาเคียว” Miss World Africaจากประเทศยูกานดา “โซลาริส บาร์บา” Miss World Americas จากประเทศปานามา และ “ลินซี แม็คคิลแลนด์” Miss United Kingdom จากประเทศสกอตแลนด์ มาถ่ายภาพโปรโมทการประกวด ในชุดไทยวิวาห์โบราณ จากร้าน “ภูษาผ้าหลายอย่าง” โชว์เสน่ห์ผ้าไทยโบราณ เผยแพร่ให้ทั่วโลกตะลึงความงามอย่างไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยแต่ละยุคแต่ละสมัยและสื่อถึงการเป็นเจ้าภาพในการจัดงานของประเทศไทยในครั้งนี้
สำหรับผลงานของปู่คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ที่สร้างชื่อให้กับเขาจนกลายเป็นไอคอนแห่งวงการแฟชั่นนั้นต้องบอกเลยว่ามีเยอะมากๆ แต่ที่โดดเด่นมากที่สุดเห็นจะเป็นผลงานชิ้นแรกอย่างภาพสเก๊ตเสื้อโค้ทในปี 1954 ซึ่งเขายังได้คว้ารางวัลอันดับ 1 ซึ่งจัดการประกวดโดย Secrétariat International de la Laine อีกทั้งผลงานของเขายังได้ไปเข้าตา ปิแอร์ บัลแมง โดยบัลแมงได้นำภาพสเก็ตนี้ไปผลิตและออกจำหน่ายจริง และนั่นทำให้คาร์ลเข้ามาเป็นผู้ช่วยของบัลแมงอีกด้วย
ถัดมาในปี 1954 คาร์ลได้รังสรรค์ผลงานชิ้นแรก และนำมันส่งประกวด โดยเป็นภาพสเก็ตเสื้อโค้ท ซึ่งเขายังได้คว้ารางวัลอันดับ 1 ในการประกวดนี้ ซึ่งจัดโดย Secrétariat International de la Laine โดยเวทีนี้เพื่อนซี้อย่าง Saint Laurent ก็ได้เข้าร่วมประกวดในปีเดียวกันด้วย ทั้งนี้ผลงานของเขายังไปเข้าตา “ปิแอร์ บัลแมง” โดยบัลแมงได้นำภาพสเก็ตนี้ไปผลิตและออกจำหน่ายจริง และนั่นทำให้คาร์ลได้เข้ามาเป็นผู้ช่วยของบัลแมง นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นในสายอาชีพนี้ของ Karl Lagerfeld ด้วยวัยเพียง 17 ปี
ในช่วงปี 1958- 1963 คาร์ลขยับขึ้นจากการเป็นผู้ช่วยบัลแมงมาเป็น Art Director ให้กับ Jean Patou หลังจากนั้นไม่นานในปี 1964 คาร์ลได้มีโอกาสร่วมงานในฐานะดีไซเนอร์อิสระให้กับแบรนด์ดังอย่าง Chloé
งาน COLORMUSE X COLORMIX เป็นโปรเจ็กต์ที่รวบรวมเทรนด์ทรงผมและสีผมเอาไว้กว่า 50 ภาพ ซึ่งผลงานทั้งหมดสร้างสรรค์โดยสไตลิสต์ระดับโปรเฟสชั่นนัลที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงซาลอนกว่า 47 คน จาก 45 ซาลอนชั้นนำทั่วประเทศไทย และที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากที่สุดคือผลงานจากสไตลิสต์รับเชิญกิตติมศักดิ์ นายโยชิโนริ คิตาฮาร่า (Mr.Yoshinori Kitahara) สไตลิสต์ฝีมือขั้นเทพจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเคยได้รับรางวัลการันตีผลงานด้านศิลปะบนเรือนผมมาแล้วมากกว่า 30 รางวัล ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง Director of SORA Salon รวมถึงยังเป็นผู้ก่อตั้งสถาบัน SORA Beauty Academy อีกด้วย
สำหรับผลงานทรงผมและสีผมทั้ง 50 ภาพ จะได้รับการรวบรวมไว้ในรูปแบบของ Digital Look Book โดย SHISEIDO PROFESSIONAL THAILAND แบรนด์ชั้นนำที่เชี่ยวชาญด้านเส้นผมเป็นอย่างดี ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการซาลอนที่มีการนำเสนอเทรนด์ผมในรูปแบบนี้ อีกทั้งยังเป็นประโยชน์มาก ทั้งสำหรับสไตลิสต์รุ่นใหม่และสาวๆ ที่กำลังหาแรงบันดาลใจในการอัพลุคใหม่ด้วยทรงผมหรือสีผม เพราะการรวบรวมภาพไว้ในรูปแบบ Digital Look Book ง่ายต่อการเข้าถึง ทุกคนสามารถนำไอเดียที่ได้จากโปรเจ็กต์นี้ไปใช้กับตัวเองได้จริง
ถ้าอยากอัพลุคใหม่ให้เริ่ดไม่ซ้ำใครด้วยเทรนด์ทรงผมและสีผมปังๆ บอกเลยว่าห้ามพลาดตามไปส่องสไตล์โดนใจกันที่ COLORMUSE X COLORMIX โปรเจ็กต์ Digital Look Book โดย SHISEIDO PROFESSIONAL THAILAND ได้เลยที่ http://bit.ly/2TX134w