Francois Russo แห่ง Maison Takuya “ไม่แอร์เมส… ก็ต้องแบรนด์นี้แหละ!”
ประโยคข้างบนไม่ใช่คำพูดลอยๆ แต่เป็นคำพูดจากลูกค้าระดับมหาเศรษฐีของญี่ปุ่น ที่กล่าวกับคุณฟรองซัวส์ รุสโซ่ ( Francois Russo ) ผู้ก่อตั้ง “เมซง ทาคุยะ” แบรนด์เครื่องหนังระดับลักชัวรีของไทยว่า “คุณรู้ไหม เราไม่มีทางเลือกมากนัก ไม่คุณก็แอร์เมส”
ทุกวันนี้ ‘เมซง ทาคุยะ’ คือหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องหนังชั้นยอด ที่แอบตีตลาดลักชัวรี่ในเมืองนอกอยู่อย่างเงียบๆ ถึงขนาดที่เคยเบียดแบรนด์ยักษ์ระดับโลกไปคว้ารางวัล “สินค้าเครื่องหนังที่ดีที่สุด” จากรายการทีวีชื่อดังของญี่ปุ่นมาแล้ว ที่น่าปลื้มใจไปกว่านั้นคือ คุณฟรองซัวส์ หนุ่มฝรั่งเศสที่มาลงหลักปักฐานในเมืองไทย ประกาศชัดเจนว่า เมซง ทาคุยะ คือแบรนด์ไทย ทำโดยคนไทย และนี่คือสิ่งที่เขาภูมิใจ!
เดิมทีคุณฟรองซัวส์ เคยทำงานเป็นอินทีเรียดีไซเนอร์ชื่อดังของฝรั่งเศส เคยทำงานร่วมกับศิลปินและคนดังทั่วโลกมามากมาย แต่กลับเลือกมาปักธงสร้างแบรนด์หรูในเมืองไทย โดยคุณฟรองซัวส์เล่าถึงที่มาของความชอบในกระเป๋าถือว่า “เริ่มจากคุณแม่ผมเป็นลูกค้าตัวยงของแอร์เมส ทำให้ท่านสนิทสนมกับ Rena Dumas ภรรยาของ Jean-Louis Dumas เจ้าของแอร์เมสในยุคนั้น ทุกครั้งที่ไปช็อปปิ้ง ท่านจะพาผมไปด้วย ต้องอธิบายนิดหน่อยว่า ช็อปแอร์เมสที่ปารีสในยุคนั้นมีร้านค้าอยู่ชั้นล่าง ส่วนชั้นบนเป็นห้องทำงานของช่าง ที่ผลิตสินค้ากันจริงๆ เวลาไปที่ช็อป ผมก็จะวิ่งเล่นที่ชั้นบนตามประสาเด็ก แล้วซักนั่นถามนี่ ช่างก็อธิบายให้ฟัง ทำให้ผมได้เรียนรู้ข้อมูลในเชิงลึกว่า สินค้าของแอร์เมสผลิตและประดิษฐ์ขึ้นมาอย่างไร พร้อมกับซึมซับความชอบในกระเป๋าและเครื่องหนังเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
“แต่ผมก็ยังไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับกระเป๋า กลับมาทำงานด้านอินทีเรียดีไซน์แทน กระทั่งวันหนึ่งรู้ตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองเป็นนักสะสมกระเป๋าตัวยง จาก 200 ใบ เป็น 500 ใบ ผมซื้อกระเป๋าเป็นว่าเล่น จนถึงจุดที่ผมเริ่มสั่งทำกระเป๋าพิเศษจากแอร์เมสเพื่อให้ได้แบบที่ผมต้องการ ผมจึงคิดได้ว่ากระเป๋าในตลาดยังขาดอะไรบางอย่าง ถึงเวลาแล้วที่ผมจะทำแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาเสียที แต่ด้วยความที่ผมเดินทางเยอะ จึงเลือกเดินทางมาทำตลาดในเอเชียเพราะรู้สึกว่ากำลังเติบโต ขณะที่ยุโรปอยู่ในช่วงขาลง พอดีมาแวะผ่านเมืองไทย และตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่เคยจากไปไหนอีกเลย ผมเป็นประเภทฟังความรู้สึกตัวเองน่ะครับ พอรู้สึกว่าเมืองไทยคือที่ที่ใช่สำหรับตลาดลักชัวรี่ในอนาคตแล้ว ผมก็เริ่มทำเลย”
“ตอนแรกผมใช้วิธีเชิญช่างฝีมือจากฝรั่งเศส อิตาลีและญี่ปุ่นมาสอนการทำกระเป๋าชั้นสูงให้ ผมยอมลงทุนในเรื่องของการให้ความรู้และทำเทรนนิ่ง เริ่มจากทำของชิ้นเล็กๆ แล้วค่อยขยับไปทำของชิ้นใหญ่อย่างกระเป๋าถือรูปทรงต่างๆ ซึ่งต้องอาศัยงานฝีมือชั้นสูง เราใช้เวลา 2 ปีเต็มในการเทรนช่างไทย 10-15 คน เรียกว่าเป็นช่วงที่ผมต้องอดทนมาก กระทั่งพอช่างฝีมือเข้าที่แล้ว สินค้าของเราก็ได้เข้าไปขายในห้างอิเซตันที่ญี่ปุ่น ต่อด้วยห้างฮันคิว เมน ดีพาร์ทเมนสโตร์ ในย่านกินซ่า ซึ่งตั้งอยู่ข้างแบรนด์ใหญ่อย่าง ทอม ฟอร์ด, ดันฮิล, บุลการี, โกยาร์ต ฯลฯ ปรากฏว่าของเราขายหมดภายใน 3 วัน พอปีต่อมา เราก็ได้รางวัล the best leather item in Japan ที่รายการทีวีในญี่ปุ่นจัดอันดับทุกปี ปีนั้นโรเล็กซ์ได้รางวัลด้านนาฬิกา ส่วนเราได้ที่หนึ่งด้านเครื่องหนัง ซึ่งเป็นเหมือนการจุดประกายทำให้ยอดขายเราพุ่งขึ้นไปอีก
“ล่าสุด ผมไปร่วมงานอีเวนต์ที่โชว์รูมของเราในอาโอยามะ ใกล้กับช็อปปราด้า เป็นงานที่เราจัดขึ้นเพื่อให้ลูกค้าชาวญี่ปุ่นสั่งทำกระเป๋าแบบพิเศษได้ ที่น่าตกใจคือ ลูกค้าส่วนใหญ่มาในรถเบนท์ลี่ มาเซอราติและโรลส์รอยส์ ในงานผมได้พูดขอบคุณลูกค้าผู้มีเกียรติที่อุตส่าห์เลือกสินค้าของผม แล้วผมก็ได้คำตอบที่เซอร์ไพรส์มากจากหลายคนว่า “คุณรู้ไหม เราไม่มีทางเลือกมากนัก ไม่คุณก็แอร์เมส” คืนนั้นผมกลับมานอนคิดทั้งคืนว่า ถ้าเราใช้เวลาไม่ถึง 10 ปี แล้วลูกค้าญี่ปุ่นที่มีความรู้ความชำนาญเปรียบเทียบเรากับแอร์เมสที่มีอายุ 160 ปีได้ก็ถือว่าปาฏิหาริย์แล้ว
“ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้สินค้าของเราแตกต่าง ผมว่าเมซง ทาคุยะ มีความเป็นลักชัวรี่จริงๆ กระเป๋าของเราคือการสร้างสรรค์สิ่งที่เรียบง่าย ด้วยกระบวนการที่ซับซ้อนสุดๆ ทั้งยังซุกซ่อนไปด้วยรายละเอียดที่คุณคาดไม่ถึง เราใช้หนังเกรดดีที่สุดจากทั่วโลก โดยซัพพลายเออร์เดียวกับแอร์เมส เราใช้ด้ายลินินจากฝรั่งเศสในการเย็บกระเป๋าเท่านั้น รวมถึงต้องใช้แว็กซ์เคลือบเส้นด้ายก่อนเพื่อความทนทาน เราเย็บด้วยมือไม่มีการใช้เครื่องจักร เรามีวิธีซ่อนรอยเย็บและปมด้ายชนิดที่คุณไม่มีวันรู้ว่ามันอยู่ไหน เพื่อให้ผืนหนังโชว์ความสวยงามอย่างเต็มที่ เราไม่เคยใช้กาวในสินค้าของเรา แม้กระทั่งแป๊ะติดกระเป๋าที่ซ่อนไว้ใต้ผืนหนังเราก็ใช้วิธีเย็บ ซึ่งทำให้คงทนถาวรกว่า ดีเทลเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้แหละที่ทำให้เราแตกต่าง และเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณไม่พอใจเวลาใช้สินค้าบางยี่ห้อ เพราะเขาคิดว่าแค่ซ่อนมันซะ คุณก็ไม่เห็น แต่มันกลับมีผลอย่างมากเมื่อคุณใช้งานจริง
“ทุกวันนี้ผมกล้าพูดเต็มปากว่า เมซง ทาคุยะ เป็นแบรนด์ไทย เพราะโรงงานของเราอยู่ในเมืองไทย สินค้าของเราเมดอินไทยแลนด์ ผมรู้สึกขัดใจทุกครั้งที่มีคนถามว่าทำไมผลิตสินค้าในเมืองไทย รู้ไหมมีกระเป๋าแบรนด์ดังที่เขียนว่าเมดอินอิตาลีหรือฝรั่งเศส แต่คุณภาพแย่มาก แล้วอะไรที่ทำให้คุณคิดว่า เมดอินประเทศไหน ดีกว่าประเทศไหน ความคิดแบบนี้เกิดขึ้นเฉพาะในยุคที่โลกเรายังไม่มีการเดินทางข้ามประเทศกัน องค์ความรู้จึงอยู่ในประเทศนั้นๆ แต่ตอนนี้เราอยู่ในยุคโลกาภิวัฒน์แล้ว ขอแค่เรามีองค์ความรู้ที่ครบถ้วน เราก็สามารถมีโรงงานที่ทำทุกอย่างเองได้ ผมมาเมืองไทยเพราะที่นี่มีอนาคต เรามีบางอย่างที่สามารถผสมผสานกันแล้วกลายเป็นความแปลกใหม่ได้ ช่างไทยเองก็มีความสามารถในการทำงานด้วยมือ มีเซ้นส์เรื่องการใช้เครื่องไม้เครื่องมือและทักษะในการเลือกจับวัสดุค่อนข้างสูง ทั้งยังเรียนรู้เร็วมาก ผมโชคดีมากที่มีทีมงานที่ดี มีช่างฝีมือที่เข้าใจปรัชญาของแบรนด์และช่วยเหลือผมจนสำเร็จตามเป้าหมาย ผมขอบคุณทุกอย่างที่มี
นี่คือของขวัญที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม
เรื่อง โทมาลิน / ภาพ วรสันต์
ติดตามอัพเดตเรื่องราวต่างๆจากนิตยสารแพรวให้สนุกยิ่งขึ้นได้ที่
www.facebook.com/praewmagazine
Instagram : @praewmag
และติดตามอ่าน แพรว E-Magazine ได้แล้ววันนี้เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
- Praew E-magazine
- NaiinPann
- Ookbee
The post Francois Russo แห่ง Maison Takuya “ไม่แอร์เมส… ก็ต้องแบรนด์นี้แหละ!” appeared first on แพรวดอทคอม.